ก.พลังงานเม.ย.นี้เคาะโควต้ากองทุนอนุรักษ์ฯ

ผู้ชมทั้งหมด 946 

ก.พลังงานเตรียมอนุมัติโควต้างบกองทุนอนุรักษ์ฯ 7 กลุ่ม เม.ย.นี้ รองปลัดเผยในส่วนของเศรษฐกิจฐานรากมีผู้ที่สนใจเสนอมาแล้วกว่า 1,800 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 2,400 ล้านบาท ย้ำต้องเข้มงวดในการคัดกรองโครงการ

นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน  เปิดเผยว่า เดือนเมษายนี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานนะประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จะสรุปยอดการยื่นโครงการเพื่อของบกองทุนส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานทั้งหมด โดยเบื้องต้นนั้น ในส่วนของกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก วงเงิน 2,400 ล้านบาท ล่าสุดมีผู้ยื่นของบมาแล้วราว 1,800 ล้านบาท ซึ่งตนมั่นใจว่าจะมีผู้ที่ยื่นขอจัดสรรงบเศรษฐกิจฐานรากได้ใกล้เคียงกับกรอกวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ

อย่างไรก็ตามสำหรับงานกลุ่มอื่นได้ปิดรับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมาส่วนกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากจะปิดรับจนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างคณะกรรมการบริหารจังหวัด แบบบูรณาการ (กบจ.) อยู่ระหว่างคัดเลือกในแต่ละจังหวัดกลั่นกรองเรียงลำดับความสำคัญก่อนที่จะให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ส่วนราชการภูมิภาค หรือส่วนราชการส่วนกลางที่มีที่ตั้งในจังหวัดยื่นข้อเสนอเข้าระบบให้กับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน หลังจากนั้นก็จะยื่นให้คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อพิจารณาเงื่อนไขการอนุมัติงบเพื่อคัดกรองโครงการที่มีศักยภาพ และอนุมัติภายในเดือนเมษายนนี้

นอกจากนี้  ยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานจังหวัดทุกจังหวัด มีการตรวจสอบการดำเนินโครงการในพื้นที่จริงอย่างเข้มงวด และตั้งแต่ปี 2564 จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทุกขั้นตอน หากมีการขอรับการสนับสนุนประเภทเดียวกันนี้ จะต้องมีแผนงานที่ชัดเจน มีความพร้อมในการบำรุงรักษา และประชาชนจะต้องใช้งานได้จริง พร้อมทั้งต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดตั้งแต่ระบบตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผลในทุก ๆ โครงการ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

อนึ่งการจัดสรรเงินกองทุนฯปีงบประมาณ 2564 กรอบวงเงิน 6,500 ล้านบาท จะแบ่งเป็น 2 แผนงาน ได้แก่ 1.แผนอนุรักษ์พลังงานแลพพลังงานทดแทน ประกอบด้วย 7 กลุ่ม คือ กลุ่มงานตามกฎหมาย วงเงิน 200 ล้านบาท ,กลุ่มงานสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน วงเงิน 500 ล้านบาท ,กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย นวัตกรรม และสาธิตต้นแบบ วงเงิน 355 ล้านบาท

กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูล ข่าวสาร วงเงิน 200 ล้านบาท ,กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร วงเงิน 450 ล้านบาท ,กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อาคาร บ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ และพื้นที่พิเศษ วงเงิน 2,200 ล้านบาท

ส่วนกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก วงเงิน 2,400 ล้านบาทที่จะมุ่งส่งเสริมให้ชุมชนทั่วประเทศนำเทคโนโลยีพลังงานไปใช้ในการสร้างงาน สร้างรายได้ โดยจะกระจายไปในโครงการสำคัญๆ 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

1) สถานีพลังงานชุมชน เป็นการส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานภายใต้แนวคิด ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ โดยสามารถขอรับการสนับสนุนเทคโนโลยีเดี่ยว หรือหลายเทคโนโลยีที่ประกอบกัน ได้แก่ เทคโนโลยีระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์แบบเคลื่อนที่, เตาชีวมวลประสิทธิภาพสูง, ชุดครอบหัวเตาแก๊สประสิทธิภาพสูง, ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์, ระบบผลิตแก๊สชีวภาพจากของเสีย เป็นต้น 2) ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับบ่อบาดาล โซลาร์เซลล์ขนาด 2.5 กิโลวัตต์ และถังพักน้ำขนาดบรรจุ 20 ลบ.ม.

3) การผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ สำหรับพื้นที่ที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง/ไม่มีไฟฟ้า (off Grid) ได้แก่ บ้านอยู่อาศัย กลุ่มชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และ โรงเรียนในสังกัดของรัฐบาล ทั้งนี้วงเงิน 2,400 ล้านบาท จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกให้แก่จังหวัดๆ ละ 25 ล้านบาท รวม 76 จังหวัด รวม 1,900 ล้านบาท ส่วนกรอบวงเงินที่เหลือ 500 ล้านบาท จะใช้เป็นงบกลางสำหรับรองรับโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร (บ่อบาดาล) ที่เกินกรอบวงเงินของจังหวัด