“ศักดิ์สยาม”เผยบอร์ดBOIไฟเขียวหนุนเอกชนลงทุนศูนย์การขนส่งชายแดนจ.นครพนม

ผู้ชมทั้งหมด 1,230 

“ศักดิ์สยาม” เผย!!! บอร์ด BOI อนุมัติในหลักการให้การส่งเสริมแก่เอกชนผู้ร่วมลงทุน โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ของกรมการขนส่งทางบก คาดสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนได้ เม.ย.นี้ มีวงเงินลงทุนกว่า 846 ล้านบาทต่อปี กำหนดเปิดให้บริการปี 68

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ด BOI) ได้อนุมัติในหลักการให้การส่งเสริมแก่เอกชนที่จะร่วมลงทุนโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ของกรมการขนส่งทางบก ใน 3 ประเภทกิจการ ได้แก่ (1) กิจการสถานที่ตรวจปล่อยและบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์เพื่อการส่งออก หรือโรงพักสินค้าเพื่อตรวจปล่อยของขาเข้าและบรรจุของขาออกที่ขนส่งโดยระบบคอนเทนเนอร์นอกเขตท่าเทียบเรือ (รพท.) (Inland Container Depot : ICD) (2) กิจการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย (Distribution Center : DC) และ (3) กิจการพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและ/หรือคลังสินค้า

โดยเอกชนที่จะเข้าร่วมทุนกับกรมการขนส่งทางบกในรูปแบบ Public Private Partnership (PPP) ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 มีสิทธิ์ที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามเงื่อนไขของแต่ละกิจการตามที่ BOI กำหนด อาทิ การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และการได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

ส่วนพื้นที่โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมนั้นตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เอกชนมีสิทธิที่จะขอรับการยกเว้นและลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมสูงสุดถึง 13 ปี ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้เอกชนมีความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนภายในโครงการมากยิ่งขึ้น โดยกรมการขนส่งทางบกจะได้กำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ ที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ไว้ในประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนต่อไป

ทั้งนี้ โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมจัดเป็นหนึ่งในโครงการตามแผนการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า (Truck Terminal) ของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ตั้งอยู่ที่ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม บนเนื้อที่กว่า 121 ไร่ ซึ่งจะทำหน้าที่รองรับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทางสาย R12 เชื่อมต่อการขนส่งระหว่างไทย – สปป.ลาว – เวียดนาม – จีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน)

นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังสามารถรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Modal Shift) ระหว่างทางถนนกับทางราง ผ่านแนวการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล

ทั้งนี้โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมนั้นปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างกระบวนการเวนคืนที่ดิน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/2564 ในส่วนของกระบวนการ PPP คาดการณ์ว่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนได้ในเดือนเมษายน 2564 และลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ในช่วงปลายปี 2564 ก่อนเริ่มกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งมีวงเงินลงทุนกว่า 846 ล้านบาทต่อปีจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 ปี และมีแผนเปิดให้บริการในปี 2568

โดยโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกทั้งช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เชิงบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพของประเทศไทยในระยะยาวอย่างยั่งยืน