บางจากฯ ชู 4 ภารกิจ ขับเคลื่อนสู่องค์กร 100 ปี ลุ้นยอดขายปีนี้ทำนิวไฮ

ผู้ชมทั้งหมด 680 

BCP มั่นใจปีนี้ทำผลการดำเนินงานดีสุดนับจากตั้งบริษัท ลุ้นสิ้นปียอดขายทำสถิติสูงสุด พร้อมวาง Mission บางจากฯ 100 X” ขับเคลื่อนสู่องค์ 100 ปี

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บางจากฯ ได้วาง “Mission 2026 100X” ขับเคลื่อนสู่องค์กร 100 ปี และมีความสุข 100 เท่า ภายใต้ 4 ภารกิจหลัก ที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนในอนาคต 5 ปีข้างหน้าเปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ 1.LNG supply chain 2.lithium supply chain 3.green power supply chain และ 4.bio/pharmaceutical supply chain

โดยปีนี้ ถือเป็นปีที่ดีที่สุดของบางจากฯ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ ปี 2560-2561 ซึ่งมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 1.7-1.8 แสนล้านบาท ดังนั้นปลายปีนี้ คาดว่ายอดขายจะสามารถทำสถิติสูงสุด(นิวไฮ)ได้ และน่าจะมี EBITDA สูงสุดนับจากจัดตั้งบางจากฯมา หลังจากครึ่งแรกของปี 2564 มีรายได้ 85,006 ล้านบาท และ EBITDA สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 9,006 ล้านบาท อีกทั้งยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้น การรับรู้ผลประกอบการของบริษัท OKEA เพิ่มขึ้น และธุรกิจการค้าน้ำมัน โดยบริษัท BCP Trading Pte. Ltd. มีธุรกรรมการซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่า ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ อยู่ระหว่างการพัฒนาแหล่ง Yme จะเริ่มผลิตได้ตามแผนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทำให้กำลังการผลิตของ OKEA จากเดิม 10,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 15,500-16,500 บาร์เรลต่อวัน และเป็น 25,000 บาร์เรลใน 2-3 ปีข้างหน้า

ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน จะสามารถกลั่นได้เต็มอัตรา 1.2 แสนบาร์เรลต่อวัน แต่จะเน้นกลั่นน้ำมัน UCO (Unconverted Oil) แทนน้ำมันเครื่องบิน(เจท) ที่ธุรกิจการบินยังไม่ฟื้นตัว ทำให้มีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น

ส่วนธุรกิจเทรดดิ้ง ของบริษัท BCP Trading Pte. Ltd. (BCPT) มียอดขายเพิ่มขึ้น และธุรกิจไฟฟ้าของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG จะเน้นลงทุนโรงไฟฟ้าสีเขียวมากขึ้น ซึ่งเงินลงทุนส่วนใหญ่ของบางจากฯ ราว 70% จะลงไปในส่วนนี้ นอกจากนี้ BCPG ยังขยายการลงทุนไปยังธุรกิจผลิตและจำหน่ายระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Utility-Scale Energy Storage System)หรือ แบตเตอรี่ประเภทวานาเดียมรีดอกซ์โฟลว์ (Vanadium Redox Flow)

และกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ของบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ก็เติบโตต่อเนื่อง ล่าสุด BBGI ได้นำเข้า Astaxanthin Ingredients ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง (High Valued Bio-Based Products) และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านริ้วรอย บำรุงผิว โดยได้จัดจำหน่ายในประเทศไทยในรูปแบบ Business-to-Business (B2B) และมีแผนจะจำหน่ายในรูปแบบ Business-to-Customers (B2C) ภายใต้แบรนด์ B Nature Plus ต่อไป

นอกจากนี้ บริษัท วิน อินกรีเดียนส์ จำกัด (WIN) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง BBGI และ Manus Bio Inc. ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำหรับอาหาร (แบบ อ.18) สำหรับสารให้ความหวาน Neotame เพื่อการจำหน่ายในประเทศไทย และในเดือนมิถุนายน 2564 ได้แต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายสารให้ความหวานใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ บางจากฯ เตรียมทบทวนงบลงทุน 5 ปีใหม่ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากแผนเดิมอยู่ที่ 8.8 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการเข้าระดมทุนของ BBGI และขยายพอร์ตการลงทุนใน 5 ปีข้างหน้า ที่จะมุ่งสู่ธุรกิจสีเขียวมากขึ้นถึง 70% และตอบโจทย์เป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (carbon neutral) ในปี 2030 หรือปี 2573 และตั้งป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ตามทิศทางอุตสาหกรรมพลังงานของโลก