“พลังงาน” ยัน เหตุท่อน้ำมันในทะเลรั่วที่ระยอง ไม่กระทบจัดหาน้ำมัน

ผู้ชมทั้งหมด 1,000 

ก.พลังงาน เกาะติดสถานการณ์ท่อส่งน้ำมันของ SPRC รั่วกลางทะเล อย่างใกล้ชิด แจงเบื้องต้นไม่กระทบการจัดหาน้ำมัน ยัน ไทยมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองตามกฎหมาย ใช้ได้ 28 วัน พร้อมรับเหตุฉุกเฉิน

​กรณีเกิดเหตุท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC  มีการรั่วไหลเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 25 มกราคม 2565 บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง ระยอง ซึ่งหลังเกิดเหตุ บริษัทฯ ได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์ทันที และดำเนินการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนนั้น

นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน ระบุว่า กระทรวงฯ ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และได้รับรายงานว่า ทางบริษัท SPRC ได้ดำเนินการใช้น้ำยาและอุปกรณ์เพื่อขจัดคราบน้ำมันอย่างเร่งด่วน รวมทั้งได้เร่งประสานหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม (EMCC), ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว, ชุมชนกลุ่มประมงใกล้เคียง, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในการช่วยกันดำเนินการเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด

“กระทรวงพลังงาน ได้ตรวจสอบกับบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง โดยบริษัทได้ชี้แจงว่ามีปริมาณน้ำมันดิบในทะเล 20,000 ลิตร ซึ่งกระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน ติดตามสถานการณ์และตรวจสอบปริมาณน้ำมันสำรอง พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อการจัดหาน้ำมันเพื่อรองรับการใช้ของประเทศอย่างแน่นอน”

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้พลังงานจังหวัดระยองติดตามสถานการณ์และประสานงานในพื้นที่ ซึ่งในภาพรวมประเทศไทยมีกำลังการกลั่นน้ำมันประมาณ 1.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในส่วนของโรงกลั่น SPRC มีกำลังการกลั่นประมาณ 175,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งการผลิตของโรงกลั่น SPRC ยังสามารถดำเนินการได้ และหากมีกรณีที่มีเหตุที่ไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ ก็สามารถเพิ่มการผลิตของโรงกลั่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ หรือ นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเข้ามาได้  โดยปริมาณน้ำมันดิบสำรองของประเทศสามารถใช้ได้ประมาณ 28 วัน ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป