“ศักดิ์สยาม” ลั่นไม่ละเลยผลสอบเหตุคานสะพานถล่มบนถนนพระราม2

ผู้ชมทั้งหมด 489 

ศักดิ์สยาม” ลั่นไม่ละเลยผลสอบเหตุคานสะพานถล่มบนถนนพระราม2 ระบุต้องรอบคอบ เร่งเกินไปอาจคลาดเคลื่อน ขณะที่ ทล.เตรียมจ้างมหาลัยตรวจสอบสะพานทั่วไทย 1,000 แห่ง คาด 6 เดือนรู้ผลเบื้องต้น จ่อปิดจราจร 5 วันติดตั้งคานสะพานใหม่หน้ารพ.วิภารามก่อนเปิดใช้ 11 พ.ย. ส่วนผลสอบวินัยส่งคมนาคมแล้วอีก 3 เดือนจบ

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่สถานีกลางลางซื่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและวิชาชีพวิศวกรรม ระหว่างกรมทางหลวง (ทล.) สภาวิศกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เพื่อบูรณาการความร่วมมือทางวิชาการและวิชาชีพวิศวกรรมให้ครอบคลุมในทุกมิติด้านงานวิศวกรรม และสร้างความมั่นใจในการเดินทางของประชาชน ซึ่งโดยมีผู้บริหาร ข้าราชการจากกระทรวงคมนาคม และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวถถือเป็นการบูรณาการร่วมกัน (Third Party) ของทั้ง 3หน่วยงาน เพื่อตรวจสอบการดำเนินโครงการอย่างรัดกุม และโปร่งใส ตั้งแต่เริ่มโครงการ ระหว่างดำเนินโครงการ และหลังเสร็จสิ้นโครงการ โดยสืบเนื่องจากกรณีที่อุบัติเหตุคานสะพานกลับรถร่วงหล่นบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ตอนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน-นาโคก ที่ กม.34+000 บริเวณสะพานกลับใกล้โรงพยาบาลวิภาราม อ.เมือง จ.สมุทรสาครพังถล่ม เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2565 อาจสร้างความไม่มั่นใจในการเดินทางของประชาชน ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจึงให้ความสำคัญกับโครงสร้างของสะพานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทล. ที่มีมากกว่า 17,000 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสะพานที่มีอายุการใช้งานมานานกว่า 30 ปี จากที่ควรมีอายุการใช้งานประมาณ 25 ปีเท่านั้น ซึ่งต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยเร็ว

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะขยายความร่วมมือดังกล่าวไปยังอีก 18 หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากสภาวิศกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการจัดส่งบุคลากรมาร่วมดำเนินงานกับโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม ที่ได้ดำเนินการอยู่ เช่น MR-MAP, รถไฟทางคู่, รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และเชื่อม 3 สนามบิน เป็นต้น เพื่อให้เป็นไปตามหลักวิชาชีพและหลักวิศวกรรม และสร้างความเชื่อมั่นในสายตาประชาคมอาเซียน เอเชีย และระดับโลก

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงผลการสอบข้อเท็จจริงอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถ บริเวณถนนพระราม 2 พังถล่มว่า ขณะนี้คณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถโครงการบูรณะและปรับปรุงสะพานทางหลวงหมายเลข 35 ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนฝั่งตะวันตก-นาโคก ตอน 2 จ.สมุทรสาคร ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบในรายละเอียด และสอบวินัยเจ้าหน้าที่ 3 ราย

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมไม่ได้ละเว้นในการติดตามและพยายามเร่งรัดผลการสอบมาโดยตลอด เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน แต่ต้องเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก หากเร่งรัดจนเกินไปจะเกิดความไม่รอบคอบ และผลสอบอาจจะคลาดเคลื่อนได้

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ทล.จะนำความร่วมมือดังกล่าวใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการนำร่องทดสอบสะพานกลับรถบนถนนพระราม 2 จำนวน 16 แห่ง และขยายผลสู่สะพานอื่นๆ ในโครงข่ายทางหลวงทั่วประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.2565-ก.ย. 2566)  ทล.จะว่าจ้างสถาบันอุดมศึกษาจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ในการร่วมสำรวจสะพานขนาดใหญ่อย่างละเอียด จำนวน 1,000 แห่ง อาทิ จุดกลับรถ สะพานข้ามแยก สะพานข้ามทางรถไฟ รวมถึงสะพานที่มีอายุการใช้งานเกิน 30 ปี  ซึ่งจะตรวจสอบในเรื่องความแข็งแรงการรับน้ำหนักและชิ้นส่วนของสะพาน คาดว่าจะรู้ผลเบื้องต้นภายใน 6 เดือน

นายสราวุธ  กล่าวอีกว่า ส่วนสะพานกลับรถบนถนนพระราม 2 ตอนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน-นาโคก ที่ กม.34+000 บริเวณสะพานกลับใกล้โรงพยาบาลวิภารามนั้น ทล.เตรียมปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-4 พ.ย. 2565 รวมระยะเวลา 5 วัน เพื่อติดตั้งคานสะพาน จากนั้นจะนำรถบรรทุกมาวิ่งทดสอบน้ำหนัก ระยะเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนจะเปิดให้บริการในวันที่ 11 พ.ย. 2565

นายสราวุธ กล่าวว่า ขณะที่ผลสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุบนถนนพระราม 2 นั้น ทล. ได้ส่งผลการสอบวินัยเจ้าหน้าที่ 3 รายไปยังคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ แล้ว จากนี้กระทรวงคมนาคมจะตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ขึ้นมาสอบวินัยอีก 1 ชุด เพื่อพิจารณาผลสอบอีกครั้ง ให้มีความรอบคอบ และเป็นธรรม คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาแล้วเสร็จอีกประมาณ 3 เดือน