ธ.ค.นี้!! ประมูลรถไฟสายสีแดงส่วนต่อขยาย มูลค่ารวม 2.18 หมื่นล้าน

ผู้ชมทั้งหมด 500 

“ศักดิ์สยาม” เร่งรฟท.ประมูลจัดหาผู้ดำเนินโครงการรถไฟสายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) 3 เส้นทางกรอบวงเงินลงทุนรวม 21,832 ล้านบาท คาดเริ่มประมูลในเดือน ธ.ค.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งเปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้างการดำเนินโครงการรถไฟสายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) 3 เส้นทางได้แก่ ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กิโลเมตร วงเงิน 4,694.36 ล้านบาท ช่วงรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร วงเงิน 6,468.69 ล้านบาท ให้จัดประกวดราคาในเดือนธันวาคม 2565 นี้ และช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กิโลเมตร วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท พร้อมประกวดราคาในเดือนมกราคม2566 

โดยทั้ง 3 เส้นทาง จะเริ่มก่อสร้างในเดือนพฤษภาคม 2566 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 สามารถเปิดให้บริการต่อขยายเส้นทางจากรถไฟสายสีแดงที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ไปยังพื้นที่ชานเมืองทางทิศเหนือและทิศตะวันตกของกรุงเทพมหานคร รองรับการเดินทางของประชาชนและนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา รวมถึงประชาชนที่ใช้บริการโรงพยาบาลศิริราช ให้ได้รับความสะดวกสบาย

สำหรับโครงการรถไฟสายสีแดงอ่อน (Missing Link) ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้มช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร กรอบวงเงินลงทุนราว 44,157 ล้านบาท อยู่ระหว่างการปรับปรุงแบบสถานีราชวิถีใหม่ให้ผู้โดยสารเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีได้สะดวก และเป็นการบูรณาการการใช้ประโยชน์เส้นทางรถไฟสายสีแดงช่วง Missing Link ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุดในการเดินทางเชื่อมต่อ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571

นอกจากนี้ตนยังได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ 1. ให้คณะกรรมการกำหนดราคากลางโดยพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามหลักธรรมาธิบาลอย่างเคร่งครัดก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี 2.ให้ รฟท. เสนอรูปแบบของสัญญาการประกวดราคาแบบปรับราคาได้ ซึ่งจะทำให้กรอบวงเงินโครงการลดลงตามค่า k อันจะช่วยประหยัดวงเงินลงทุนโครงการได้ ในกรณีที่มีการลดลงของราคาวัสดุหรือต้นทุนทางพลังงาน โดยได้กำชับต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงาน เพื่อผลักดันให้ระบบรางเป็นระบบหลักในการเดินทาง สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ที่จะสนับสนุนการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจโดยรอบเส้นทางที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ที่จะส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน การท่องเที่ยวนำมาสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจในท้ายที่สุด