AOTเสริมจุดแข็งสนามบินอุดรฯ บุรีรัมย์ กระบี่ หนุนฮับภูมิภาค

ผู้ชมทั้งหมด 2,173 

AOT มั่นใจบริหาร 3 สนามบินอุดรธานี กระบี่ บุรีรัมย์ช่วยเสริมจุดแข็ง ชี้แผนระยะแรกบริหารจัดการดีมานด์จัดทำแผนการตลาด ปรับเส้นทางบินใหม่สามารถบินตรงจากต่างประเทศสู่อีสานได้เลย พร้อมปรับปรุงสนามบิน

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการบริหารท่าอากาศยาน 3 แห่ง ท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานกระบี่ และท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ที่จะรับโอนย้ายมาอยู่ในความรับผิดชอบ AOT ว่า ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนข้อกฎหมายในบ้างข้อที่จะต้องดำเนินการกับทางกรมธนารักษ์ ซึ่งคงไม่มีปัญหาอะไร การโอนย้ายก็คาดว่าจะเป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกำหนด คือ วันที่ 1 ม.ค. 65

ทั้งนี้เมื่อ AOT ได้เข้าบริหารในระยะแรกภายหลังจากรับโอนจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) จะดำเนินการจัดแผนด้านอุปสงค์ (Demand) แผนบริหารจัดการดีมานด์ก่อน โดยจะดำเนินการควบคู่กับการทำการตลาด ซึ่งภายหลังจากมีแผนการตลาดที่ชัดเจนก็จะดำเนินการจัดทำงบประมาณสำหรับลงทุนปรับปรุงท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่ง โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มปรับปรุงได้ช่วงต้นปี 2566 แล้วเสร็จปลายปี 2566 ก็คาดว่าจะสอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นหลังจากโควิด-19 ระบาด

พร้อมกันนี้ AOT จะต้องการดำเนินการปรับเส้นทางการบินใหม่ เที่ยวบินใหม่ โดยให้สายการบินจากต่างประเทศสามารถบินตรงไปยังท่าอากาศยานปลายทางได้ เช่น ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศแล้วมีภูมิลำเนาที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็สามารถบินตรงลงที่จ.อุดรธานี หรือ จ.บุรีรัมย์ ได้ โดยไม่ต้องบินลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

การบริหารท่าอากาศยานเพิ่มอีก 3 แห่งนั้นจะช่วยเสริมศักยภาพให้ไทยสามารถเป็นจุดศูนย์กลาง (ฮับ) ด้านการขนส่งคมนาคมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการได้บริหารท่าอากาศยานอุดรฯ และบุรีรัมย์ ก็จะส่งผลให้ AOT มีท่าอากาศยานที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากปัจจุบัน AOT มีท่าอากาศยานภายใต้กำกับดูแลอยู่จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยาดอนเมือง, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง, ท่าอากาศยานหาดใหญ่,ท่าอากาศยานภูเก็ต