BAFSปี64-67ลุย3ธุรกิจหลักหนุนผลงานโต

ผู้ชมทั้งหมด 721 

BAFS เปิดแผนยุทธศาสตร์ 64 – 67 มุ่งพัฒนา 3 ธุรกิจ ทั้งธุรกิจหลัก ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และธุรกิจใหม่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในโลกยุคใหม่ พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ปี 67 ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ Non-Core Business เพิ่มเป็น 57%

นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ทั่วโลกส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการบิน ดังนั้น BAFS จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์องค์กรปี 2564-2567 เพื่อการเติบโตของกลุ่มบริษัทอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าภายในปี 2567 จะมีส่วนแบ่งรายได้ของธุรกิจหลัก (Core Business) คือธุรกิจบริการน้ำมันอากาศยาน 43% และธุรกิจอื่น ๆ (Non-Core Business) 57% เพื่อสร้างความมั่นคงด้านรายได้และกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจหลัก อย่างไรก็ตาม BAFS ยังคงเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวไทยในระยะยาวจะกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

โดย BAFS จะเดินหน้ารักษาศักยภาพและความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก พร้อมการขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่สามารถตอบสนองโลกยุคใหม่ทั้งในเรื่อง Digital Transformation และ Disruption เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า กลุ่มบริษัทจะมีรากฐานที่แข็งแรงและสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนเพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ สำหรับปี 2564 บาฟส์มีแผนดำเนินธุรกิจ ดังนี้

ธุรกิจหลัก – รักษาความแข็งแกร่งของการให้บริการธุรกิจหลักครบวงจร โดยมีโครงการที่จะลงทุนขยายการให้บริการน้ำมันอากาศยานไปยังท่าอากาศยานในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ ซึ่งบริษัทอาจจะดำเนินการด้วยตนเองหรือเข้าร่วมทุนกับผู้ประกอบการรายอื่น นอกจากนี้ บริษัท ไทยเชื้อเพลิงการบิน จำกัด (TARCO) ผู้ให้บริการระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานผ่านท่อแบบ Hydrant ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กำลังดำเนินโครงการระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานผ่านท่อแบบ Hydrant ระยะที่ 2 ภายใต้โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบไปด้วยหลุมจอดอากาศยานแบบแนบประชิดอาคารทั้งหมด 28 หลุมจอด ให้บริการด้วยระบบท่อส่งน้ำมันใต้ดินทั้งหมด โดยมีการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว 100% ในเดือนมิถุนายน 2562 

พร้อมทั้งการทดสอบระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานอย่างเต็มรูปแบบด้วยน้ำมันอากาศยานจริงในเดือนมกราคม 2564 โดยคาดว่า จะทดสอบเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และการทดสอบระบบปฏิบัติงานต่าง ๆ ร่วมกันแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2565

ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง – บริษัทวางแผนขยายขอบเขตการทำธุรกิจที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการน้ำมันอากาศยาน คือ บริษัท บาฟส์ อินโนเวชั่น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (BID) ดำเนินการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ การพัฒนานวัตกรรมและธุรกิจ Digital Solution การพัฒนาแพลตฟอร์มการบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบิน และท่าอากาศยานผ่านเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น blockchain และ AI เป็นต้น

รวมถึงการพัฒนา Prototype หุ่นยนต์เติมน้ำมันอากาศยานเพื่อติดตั้งกับรถเติมน้ำมันอากาศยาน บริษัท บาฟส์อินเทค จำกัด (BAFS INTECH) ผลิตและจัดจำหน่ายรถเติมน้ำมันอากาศยาน อุปกรณ์เครื่องมือสนับสนุนอากาศยานในภูมิภาค โดยมีการประกอบและจัดจำหน่ายรถเติมน้ำมันอากาศยานให้กับประเทศเมียนมาและลาว รวมทั้งร่วมมือกับบริษัทชั้นนำของยุโรปในการพัฒนารถเติมน้ำมันอากาศยานไฟฟ้า (Electronic Vehicle- EV) และการเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น วาล์วในงานด้านอุตสาหกรรมรวมถึงอุตสาหกรรมปิโตรเลียม

ธุรกิจใหม่ – บริษัทมีแผนการลงทุนทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเสริมรายได้และความมั่นคงให้แก่ธุรกิจของบริษัท ตลอดจนกระจายรายได้และสร้างความสมดุลให้แก่โครงสร้างรายได้ของบริษัท โดย  บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (BC) ได้ลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนและสิ่งแวดล้อม (Renewable energy) และธุรกิจรีไซเคิล (Recycling business) โดยการซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ จำนวน 7 แห่ง กำลังผลิตรวม 36.4 เมกะวัตต์ มูลค่าประมาณ 1,704.67 ล้านบาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทโดยทันทีในปี 2564 และมีแผนที่จะซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศในอนาคต