BCPไตรมาส1โกยกำไร2.28พันล้าน

ผู้ชมทั้งหมด 477 

BCP เผยไตรมาส 1/64 ทำกำไร 2,284 ล้านบาท ส่งผลให้พลิกกลับมาเป็นกำไร จากที่ขาดทุน 4,660 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน รับปัจจัยหนุนจากยอดขายน้ำมันเดือนมีนาคมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 390 ล้านลิตร รวมทั้งราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานกลุ่มบริษัทบางจากฯ ในไตรมาสแรกของปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,284 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 808 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2563 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 149 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563 ที่ขาดทุนสุทธิ 4,660 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.59 บาท

ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 41,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มี EBITDA 4,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 72 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ขณะเดียวกันไตรมาสนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังมี Inventory Gain หรือ กำไรจากสต๊อกน้ำมัน 2,473 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับการวางแผนทยอยเก็บสำรองน้ำมันดีเซลไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นทุนราคาน้ำมันต่ำ เพื่อนำมาจำหน่ายในช่วงที่โรงกลั่นหยุดซ่อมบำรุง ซึ่งมีกำไรจากการเก็บสำรองดังกล่าวกว่า 600 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจัยหนุนดังกล่าวช่วยลดผลกระทบของค่าการกลั่นพื้นฐานที่ยังอยู่ในระดับต่ำ จากการที่โรงกลั่นบางจากฯ หยุดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ตามวาระ (Major Turnaround)

ส่วนปริมาณการจำหน่ายรวมของธุรกิจการตลาดจะปรับลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 อย่างไรก็ตามหลังจากที่การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย ประชาชนกลับมาเดินทางและใช้รถยนต์เพิ่มมากขึ้น ทำให้ยอดจำหน่ายผ่านตลาดค้าปลีกเดือนมีนาคม 2564 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 390 ล้านลิตรต่อเดือน และกลุ่มธุรกิจการตลาดสามารถผลักดันยอดขายน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปได้อย่างต่อเนื่องโดยมียอดจำหน่าย 8.9 ล้านลิตร ในเดือนมีนาคมซึ่งถือเป็นยอด New high ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปในประเทศของบริษัทฯ เพิ่มเป็นร้อยละ 11 จากร้อยละ 9 ในปีก่อนหน้า

ธุรกิจร้านกาแฟอินทนิลก็สามารถทำยอดจำหน่ายสูงสุดได้เช่นกันในเดือนมีนาคม ซึ่งร้านกาแฟอินทนิลได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเสิร์ฟกาแฟจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% รวมทั้งกระแสของ Inthanin Cocoa Fever โกโก้ในตำนานสุดเข้มข้น ซึ่งถือว่าเป็น hero product ของอินทนิลที่มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดในช่วงเดือนมกราคม 2564

นอกจากนี้แล้วยังได้รับปัจจัยหนุนจากกลุ่มธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่มีผลกำไรเติบโตดีขึ้น โดยผลการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และ 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสนี้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 140 ล้านบาท ส่วนกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ไบโอดีเซล เอทานอล และกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติผลการดำเนินงานปรับลดลง