EGCO ลั่นผลประกอบการปี65 สูงกว่าปี64 โกยรายได้โรงไฟฟ้าเข้าเป้า

ผู้ชมทั้งหมด 425 

“เอ็กโก กรุ๊ป” มั่นใจผลประกอบการปีนี้สูงกว่าปี 64 เหตุรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าลินเดนฯ และเอเพ็กซ์ และอีก 3 โครงการที่จะCOD ในปีนี้ พร้อมลุยเจรจาดีล M&A เข้าเป้า 1,000 เมกะวัตต์ คาดว่าจะทยอยรับรู้ตั้งแต่กลางปีนี้ ขณะที่ตั้งเป้าศึกษาแผนการตลาดดึงลูกค้าลงทุนนิคมเอ็กโกระยองช่วงไตรมาส3/65

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO “เอ็กโก กรุ๊ป” เปิดเผยว่า บริษัท ประเมินว่ารายได้และผลประกอบการทั้งปีนี้ จะสูงขึ้นจากปี 2564 เนื่องจากรับรู้รายได้จากการดำเนินงานแบบเต็มปีจากโรงไฟฟ้า “ลินเดน โคเจน” และการลงทุนใน “เอเพ็กซ์” รวมถึงรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ 3 โครงการที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2565 ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(TPN) ,โรงไฟฟ้า “น้ำเทิน 1” ใน สปป.ลาว และการทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า “หยุนหลิน” ในไต้หวัน ส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการปีนี้สูงขึ้นจากปีก่อน

ขณะที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในไตรมาส 2 คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการที่ภาครัฐมีนโยบายเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและส่งผลต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เป็นปัจจัยพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจเติบโตขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) กำกับไว้และเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นก็ส่งผลต่อต้นไฟฟ้า ซึ่งโรงไฟฟ้าของเอ็กโก จำนวน 30 โครงการเป็นโรงไฟฟ้า IPP ที่ขายไฟให้กับรัฐ และสามาถส่งผ่านต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นได้ ส่วนโรงไฟฟ้าSPP ที่ขายตรงให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบจากค่าเชื้อเพลิงที่แพงขึ้น แต่ลูกค้าในกลุ่มนี้มีเพียง 2% เท่านั้น ฉะนั้น ค่าเชื้อเพลิงที่แพงขึ้นก็จะไม่มีผลก็ทบต่อผลประกอบการของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ บริษัท ยังเดินงบลหน้าขยายการลงทุนภายใต้งบประมาณ 30,000 ล้านบาท เพื่อมุ่งเน้นขยายการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้า แสวงหาโอกาสสร้างการเติบโตตามทิศทางพลังงานโลก โดยมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ในปีนี้ราว 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งในจำนวนนี้จะเน้นการลงทุนทั้งเชื้อเพลิงพลังงานจากฟอสซิล คือ จากก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งขยายการลงทุนพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นการลงทุนในโครงการใหม่และโครงการที่มีอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

“ขณะนี้ อยู่ระหว่างเจรจาหลายดีล คาดว่าจะมีความชัดเจนเข้ามาในช่วง กลางปี-ปลายปีนี้ แต่ในส่วนของการลงทุนใน “เอเพ็กซ์” น่าจะเห็นความชัดเจนเข้ามาได้ก่อน และเริ่มรับรู้รายได้ล่วงหน้า”   

ส่วนการลงทุนในบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (“TPN”) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งน้ำมันโดยระบบขนส่งทางท่อ ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และให้บริการคลังน้ำมัน ที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่า จะรับรู้รายได้เฉลี่ยราว 400-500 ล้านต่อปี

นายเทพรัตน์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ปัจจุบัน ได้รื้อถอนโรงไฟฟ้าเก่าออกเกือบ 100% แล้ว และได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจากทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) แล้ว และได้ผ่านการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบพื้นที่และเตรียมพร้อมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในนิคม ขณะเดียวกันยังเตรียมศึกษาแผนการตลาดและการคัดเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จากนั้นก็จะเริ่มเจรจากับลูกค้าต่อไป โดยเบื้องต้นมีลูกค้าที่สนใจเข้ามาเจรจาแล้ว ประมาณ 1-2 ราย

สำหรับกรณีที่กระทรวงพลังงาน มีข้อเสนอแนะให้ผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(Shipper LNG) ฉวยจังหวะราคา LNG ตลาดโลกอ่อนตัวลงมาอยู่ในระดับ 20 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู เร่งรัดจัดซื้อLNG มาเก็บสำรองไว้นั้น ในส่วนของเอ็กโก ยังมีปริมาณการใช้ LNG ไม่มากนัก ซึ่งก็อยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับผู้ใช้ก๊าซฯรายอื่นๆ เพื่อหาจังหวะที่เหมะสมในการนำเข้าและรอจังหวะให้ราคา LNG อ่อนตัวลงไปมากกว่าสถานการณ์ราคาในปัจจุบัน

ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 5,959 เมกะวัตต์ โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวมสูงถึง 1,364 เมกะวัตต์ ทั้งจากชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ และเซลล์เชื้อเพลิง ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ตลอดจนยังได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน (“Peer Power”) บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม (“Innopower”) และบริษัทด้านการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาด (“Apex Clean Energy Holdings”) ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ปเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.egco.com และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/EGCOGroup