GC ลั่นลุยขยายธุรกิจ HVB หลังปิดดีลซื้อกิจการ Allnex

ผู้ชมทั้งหมด 1,565 

“พีทีที โกลบอล เคมิคอล” ปลื้ม! ปิดดีลประวัติศาสตร์หลังเสร็จสิ้นการเข้าซื้อธุรกิจในกลุ่ม High Value Business (HVB) ของ Allnex พร้อมเดินหน้าขยายการเติบโตธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ หนุนสัดส่วนกำไรเพิ่ม

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยอ้างถึงหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) เลขที่ 01-137/2564 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เรื่องแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท PTTGC International (Netherlands) B.V.ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 100% โดยบริษัทฯ ในการลงทุนในธุรกิจ High Value Business (HVB) ในบริษัท Allnex Holding GmbH (“กลุ่มบริษัทเป้าหมาย”) นั้น บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่าการ ดำเนินการเข้าซื้อธุรกิจดังกล่าวได้เสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันที่ 29ธันวาคม 2564

บริษัทฯ คาดว่าการเข้าทำธุรกรรมจะส่งเสริมให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ใน การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นเข้าสู่ธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ด้วยการเพิ่มสัดส่วนกำไรจากกลุ่ม High Value Business (“HVB”) ที่มีการเจริญเติบโตและสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคภายใต้ Megatrends ซึ่งกลุ่ม บริษัทเป้าหมายเป็นบริษัทผู้ผลิต Coating Resins และ Crosslinkers ชั้นนำระดับสากลจะช่วยขับเคลื่อนการเจริญเติบโต ของบริษัทฯ ในกลุ่มธุรกิจ HVB อย่างยั่งยืนในระดับสากล

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว บริษัทฯ และ กลุ่มบริษัทเป้าหมายจะสร้างความร่วมมือและเสริมสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน รวมถึงการดำรงไว้ซึ่งจุดแข็งและ ข้อได้เปรียบทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็สามารถหาโอกาสใหม่ๆร่วมกันในการสร้างความเติบโตของ ธุรกิจ การเร่งสร้างนวัตกรรม และความเป็นเลิศในการดำเนินงาน

ทั้งนี้ PTTGC International (Netherlands) B.V. (“GC Inter B.V.”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ของ GC ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายกิจการ Allnex Holding GmbH (“allnex”) กับ Allnex Holdings S.à.r.l and Allnex S.à.r.l, (“ผู้ขาย”) ซึ่งเป็นกองทุนภายใต้การบริหารของ Advent International (“Advent”) ในช่วงเดือนก.ค.2564 ที่ผ่านมา

นับเป็นก้าวสำคัญของ GC Group ในการปรับ Portfolio เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ และสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์ รวมถึงผสานนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย

โดย GC จะยังคงบทบาทในการเป็นพันธมิตรด้านกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อพัฒนาตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ allnex และขยายไปยังตลาดเกิดใหม่ผ่านการลงทุนในอนาคต ในฐานะผู้นำระดับโลกในธุรกิจผลิตภัณฑ์ Coating Resins allnex ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มสารเคลือบและสารเติมแต่งสำหรับใช้กับวัสดุทุกประเภท เช่น ไม้ เหล็ก พลาสติก เป็นต้น รวมถึงเป็นผู้นำในการนำเสนอโซลูชั่นการพัฒนาแอพพลิเคชันการเคลือบต่างๆ

สำหรับ allnex มีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านยูโร หรือ 74,167.2 ล้านบาท (ที่อัตราแลกเปลี่ยน 37.08 บาท ต่อ 1 ยูโร) โดยมี EBITDA Margin อยู่ที่ 17 – 19% นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายโรงงานการผลิตที่ทันสมัย 33 แห่งใน 18 ประเทศ ศูนย์การวิจัยและเทคโนโลยีอีก 23 แห่ง มีพนักงานประมาณ 4,000 คนทั่วโลก ในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน allnex จึงเป็นผู้นำกว่า 70 ปี ในการผลิตและพัฒนานวัตกรรม Coating Resin สามารถใช้กับเทคโนโลยีการเคลือบที่หลากหลายและครอบคลุมการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ เหล็ก ยานยนต์ และบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ดีลดังกล่าว มีมูลค่าประมาณ 148,000 ล้านบาท ถือเป็นดีลที่มูลค่ามากที่สุดในการเข้าซื้อกิจการของ GC หรือนับเป็นดีลประวัติศาสตร์