OR จ่อปิดดีลลงทุนธุรกิจใหม่ต้นปีหน้า

ผู้ชมทั้งหมด 394 

โออาร์ แย้ม ต้นปีหน้ามีโอกาสปิดดีลร่วมลงทุนธุรกิจใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สุขภาพและความงามเพิ่มเติม พร้อมเตรียมจัดทำแผนลงทุนปี 67 เสนอที่ประชุมSTS เดือนพ.ค.นี้ จัดสรรงบประมาณพร้อมจ่อหาดีลลงทุนรับเทรนด์ธุรกิจใหม่กลางปี66

นางสาวราชสุดา รังสิยากูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการโครงการ ORion บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เปิดเผยว่า โออาร์ อยู่ระหว่างทบทวนแผนการลงทุนธุรกิจใหม่ในปี 2566 ว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ พร้อมเตรียมจัดทำแผนการลงทุนในปี 2567 เพื่อนำเสนอในการประชุมกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางในอนาคตของกลุ่ม ปตท. (Strategic Thinking Session : STS) ประมาณช่วงเดือนพ.ค.2566 โดยแผนของปี 2566 ตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินการใน 2 เรื่องหลัก คือ การทบทวนการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมว่า ยังมีธุรกิจใดที่อาจตกหล่นหรือ ยังไม่เกิดขึ้นได้ตามเป้าหมายบ้าง เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม(Food & Beverage : F&B) ,ธุรกิจสุขภาพและความงาม (Health & Wellness), ธุรกิจท่องเที่ยว (Tourism), ธุรกิจเสริมศักยภาพเอสเอ็มอี (Empowering SMEs) เป็นต้น โดยขณะนี้ มีดีลที่อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนในส่วนของธุรกิจท่องเที่ยวทั้งรูปแบบชุมชนและแพลตฟอร์ม​ท่องเที่ยวรวมทั้งธุรกิจ​สุขภาพและความงาม โดยคาดว่า การขยายการลงทุนในส่วนของธุรกิจเดิม มีโอกาสเห็นความชัดเจนเพิ่มเติมได้ในช่วงต้นปีปีหน้า และจะเป็นในลักษณะของการร่วมลงทุน(JV) 

รวมถึง การหาโอกาสเข้าลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ว่ายังมีธุรกิจใดบ้างที่บริษัทอาจจะมองข้ามไป หรือ ธุรกิจที่กำลังเกี่ยวข้องกับเทรนด์ต่างๆ เช่น เรื่องของกลุ่มคนรักสัตว์ และเรื่องสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เป็นต้น โดยการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ยังต้องรอความชัดเจนหลังจากจัดทำแผนแล้วเสร็จ และนำเสนอต่อที่ประชุมSTS แล้ว ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนได้ช่วงครึ่งแรกของปีหน้า

“ธุรกิจที่โออาร์ จะเข้าไปลงทุน เราจะดูตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำว่าสามารถเข้าไปทำอะไรได้บ้าง ก็จัต้องมาไล่ดูว่ามีจิ๊กซอว์ตัวไหนที่ควรเข้าไป อย่างสัตว์เลี้ยงก็ต้องเข้าไปดูว่า จะทำอะไรได้ จะมีความเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มธุรกิจของโออาร์อย่างไร ก็เป็นเทรนด์ แต่ยังไม่ได้ศึกษาตลาด หากจะเข้าไปก็ต้องพิจารณาและศึกษารายละเอียดให้รอบด้าน”

อย่างไรก็ตาม การขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่เพิ่มเติมนั้น โออาร์ จะยึดตามวิสัยทัศน์ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน” หรือ “Empowering All Toward Inclusive Growth” ที่จะเน้นสร้างการเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกับพันธมิตรร่วมลงทุนและชุมชนหรือผู้บริโภคจะต้องได้ประโยชน์ และจะเข้ามาต่อยอดแพลตฟอร์ม All in one app ซึ่งจะเปิดตัวได้ในช่วงต้นปีหน้า และสร้างตลาดบนโลกออนไลน์ เชื่อมออฟไลน์กับออนไลน์เข้าด้วยกัน โดยตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี จะมีสมาชิกมาใช้บริการผ่านapp ประมาณ 14 ล้านคน มีจำนวนร้านค้า อยู่ที่ 2แสนร้านค้า ขณะที่ปัจจุบัน มีฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิกบัตรบลูการ์ดราว 7.5 ล้านราย

นางสาวราชสุดา กล่าวอีกว่า งบประมาณที่จะใช้รองรับการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ใน 5 ปีจะมีเม็ดเงินร่วมทุนปีละ5,000 ล้าน​บาท​ หรือ รวมอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท ส่วนของการลงทุนปี 2566 มีงบประมาณรองรับไว้แล้ว ซึ่งก็อยู่ภายใต้กรอบงบลงทุน 5 ปี(ปี2565-2569) อยู่ที่ 60,000 ล้านบาท ขณะที่งบลงทุนในปี 2567 ยังต้องรอความชัดเจนหลังจากเสนอแผนฯต่อที่ประชุมSTS ก่อน