RATCHทุ่ม1.55พันล้านซื้อหุ้น10%ใน PRINC

ผู้ชมทั้งหมด 986 

RATCH ทุ่ม 1.55 พันล้านบาทซื้อหุ้น 10% ใน PRINC รุกขยายธุรกิจบริการสุขภาพทั่วประเทศ หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคเป็น 50% ในปี 68 ด้าน PRINC วางเป้าพลิกเป็นกำไรปี 65 พร้อมเพิ่มบริการคลินิก 100 สาขา โรงพยาบาล 20 แห่ง

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผย ว่า บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC แบบมอบอำนาจทั่วไป จำนวน 346,233,682 หุ้น และหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 34,623,369 หุ้น รวมเป็นหุ้นทั้งหมด 380,857,051 หุ้น คิดเป็นร้อยละ10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยมูลค่าการซื้อขายเป็นจำนวน 1,557,705,338.59 บาท ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาสำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ สัญญาจองซื้อหุ้น สัญญาซื้อขายหุ้น และสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับ PRINC เดิมทีประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ต่อมาได้มีการซื้อกิจการที่ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน และได้ปรับเปลี่ยนการประกอบธุรกิจหลักมาเป็นธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนและบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชน โดยในการเข้าซื้อหุ้นของ PRINC ในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายการลงทุนไปในกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งการลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ได้ศึกษาแผนแผนการลงทุนมากว่า 2 ปี

ส่วนการจะซื้อหุ้นใน PRINC เพิ่มอีกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ PRINC จะเปิดโอกาสให้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มหรือไม่ แต่การลงทุนซื้อหุ้น PRINC นั้นบริษัทฯ เชื่อว่าในระยะยาวจะให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ แม้ PRINC จะมีผลขาดทุนอยู่ก็ตามในปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาการขยายการลงทุนโรงพยาบาลของ PRINC จะเป็นการลงทุนเองดังนั้นในช่วงแรกอาจจะมีผลขาดทุนบ้าง แต่ในระยะยาวเชื่อว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี

นอกจากนี้ บริษัท ยังเห็นว่า โมเดลการลงทุนธุรกิจบริการสุขภาพมีความใกล้เคียงกับธุรกิจผลิตไฟฟ้า กล่าวคือ เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูงและต้องใช้เวลาในการคืนทุน ที่สำคัญมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไปซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมและเศรษฐกิจในภาพรวม ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ มีความพร้อมในจัดการความเสี่ยงและบริหารผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ

“ธุรกิจบริการสุขภาพในประเทศไทยมีศักยภาพการเติบโตอย่างมีนัยในระยะยาว จากสภาวะสังคมผู้สูงอายุ และพฤติกรรมความสนใจการดูแลสุขภาพของคนในสังคมที่มีเพิ่มขึ้น ซึ่งการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งการเติบโตที่สำคัญของทั้งห่วงโซ่มูลค่าของธุรกิจนี้ด้วย ไม่เพียงเฉพาะการบริการทางแพทย์และบริการส่งเสริมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ยา อาหารเสริม เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ จนถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์และสุขภาพด้วย”นายกิจจา กล่าว

อย่างไรก็ตาม RATCH นั้นมีแผนใช้เงินลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า 80% และลงทุนในกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐาน 20% จากงบลงทุนสำหรับลงทุนในโครงการใหม่ปีนี้ราว 7,000 ล้านบาท จากงบลงทุนรวมปีนี้อยู่ที่ 15,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ใช้สำหรับการลงทุนซื้อหุ้น PRINC ด้วย และมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐานเป็น 50% ธุรกิจไฟฟ้า 50% ในปี 2568  โดยการขยายการลงทุนนั้นบริษัทฯ มีศักยภาพทางด้านการเงินที่เพียงพอ เนื่องจากมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ในระดับ 0.6 เท่า ยังมีความสามารถกู้เงินได้อีกในระดับหลักหมื่นล้านบาท

นายสาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าความร่วมมือครั้งสำคัญยิ่งนี้จะนำไปสู่การขยายโรงพยาบาลตามเป้าในปี 2565 รวม 20 แห่งจากปัจจุบันมีจำนวน 11 แห่งใน 10 จังหวัด และมีแผนขยายเครือข่ายปฐมภูมิที่เป็นคลินิกบัตรทอง จากปัจจุบันเปิดดำเนินการ 13 แห่งให้ครอบคลุมทั้งประเทศ 100 แห่งในปี 2565 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 5,000-6,000 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตามการขยายลงทุนนั้นจะเน้นการซื้อกิจการโรงพยาบาลขนาดเล็กจำนวนเตียง 60-100 เตียง และมีเป้าหมายของการขยายโรงพยาบาล และคลินิกฯ ตามเมืองรอง ส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากยังมีโรงพยาบาลเอกชนน้อยอยู่ และการแข่งขันก็จะไม่สูงเหมือนกับการขยายในพื้นเมืองใหญ่ ดังนั้นหากบริษัทสามารถเดินได้ตามแผน เชื่อว่าผลการดำเนินงานในปี 2565 จะเป็นบวกได้ จากที่ขาดทุนสุทธิต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560

นอกจากนี้ทั้ง RATCH กับ PRINC มองทิศทางการเติบโตของธุรกิจสุขภาพโดยเฉพาะฝั่งผู้สูงอายุ ซึ่งยังถือว่ามีโอกาสทางธุรกิจอยู่อีกมาก พร้อมร่วมมือและการพัฒนาฝั่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งในเชิงสุขภาพ พลังงานสะอาดและด้านอื่นๆเป็นตามปณิธานของ PRINC การพัฒนาคนให้มีจิตใจของความเป็นผู้ให้ เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกับการดูแลสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยังยืน