SCGPฮุบIntan Groupขยายลงทุนบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำ

ผู้ชมทั้งหมด 771 

SCGP ขยายการลงทุนบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซีย ซื้อหุ้นร้อยละ 75 ใน Intan Group ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกที่มีฐานธุรกิจใน 4 จังหวัดหลัก คาดว่าจะดำเนินการควบรวมกิจการแล้วเสร็จภายในกลางปี 64

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางกลยุทธ์ขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จากการขยายฐานธุรกิจและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในภูมิภาค โดยมองว่า การขยายบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการของบรรจุภัณฑ์

ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย โดยได้ลงนามในสัญญาเข้าถือหุ้นร้อยละ 75 ใน PT Indonesia Dirtajaya Aneka Industri Box, PT Bahana Buana Box และ PT Rapipack Asritama (รวมเรียกว่า Intan Group) ผ่าน TCG Solutions Pte. Ltd. ที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย บริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด (TCG) ใน SCGP และคาดว่าจะดำเนินการควบรวมกิจการแล้วเสร็จภายในกลางปี 2564

อย่างไรก็ตาม Intan Group นั้นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกในอินโดนีเซียซึ่งดำเนินธุรกิจในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ Surabaya, Semarang, Bekasi และ Minahasa โดยมีฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ทั้งที่เป็นบริษัทข้ามชาติและกิจการภายในประเทศ ในปี 2563 Intan Group มีรายได้ 1,329 พันล้านรูเปียห์ (ประมาณ 92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3,057 ล้านบาท)

สำหรับการขยายการลงทุนในอินโดนีเซียครั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตในภูมิภาคอาเซียน เพิ่มศักยภาพการนำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย และสามารถส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างธุรกิจที่บริษัทฯ เข้าไปลงทุนใหม่กับธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ที่ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบันด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มจากฐานลูกค้าร่วม นอกจากนี้ บริษัทฯ สามารถนำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย ร่วมกับการนำเสนอโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละราย พัฒนาสินค้าที่เป็นนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มศักยภาพด้านการเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน

นอกจากนี้การขายการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียนั้นยังเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตให้กับ SCGP ได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีศักยภาพจากประชากรที่มีจำนวนกว่า 270 ล้านคน สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน บริษัทฯ จึงขยายการลงทุนในอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันมีบริษัทย่อย 5 บริษัท ได้แก่ PT Fajar Surya Wisesa Tbk.,    PT Dayasa Aria Prima (บริษัทย่อยของ Fajar), PT Primacorr Mandiri, PT Indorcorr Packaging Cikarang  และ PT Indoris Printingdo ที่เป็นฐานการผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก 2 แห่ง โรงพิมพ์สำหรับบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก 1 แห่ง และโรงงานผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ 2 แห่ง ในปี 2563 รายได้จากการขายในอินโดนีเซีย เท่ากับ 17,577 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.94 ของรายได้จากการขายรวม