TSE หวังปิดดีล 1-2 โครงการใหม่ในสิ้นปีนี้

ผู้ชมทั้งหมด 468 

“ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่” คาดหวังปิดดีลเจรจาซื้อกิจการโรงไฟฟ้า 1-2 โครงการในสิ้นปีนี หรือต้นปีหน้า ขณะที่ปีหน้า ลุยขยายการลงทุนในเวียดนาม และประเทศเพื่อนบ้าน ตามแผนลงทุน 5 ปี เพิ่มกำลังผลิตใหม่ 100-200 เมกะวัตต์

น.ส.เกศรา เลิศพนาสรรค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE  เปิดเผยในงาน Opportunity Day บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2564 ว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปีนี้ อาจไม่ดีมาก หากเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา แต่หากเทียบกับปีก่อน เชื่อว่าจะมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี จะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ต้องเผชิญกับฤดูฝนและฤดูหิมะในต่างประเทศ ทำให้โครงการโรงไฟฟ้าไบโอแมสในประเทศไทยและโครงการในภาคใต้จะได้รับผลกระทบจากฤดูฝน ขณะที่โซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นก็จะได้รับผลกระทบจากหิมะ แต่อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ยังรับรู้รายได้เพิ่มจากโครงการใหม่ โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ “สยาม ธารา โฟลทติ้ง” ขนาดกำลังผลิตติดตั้งและเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ ที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.2564 จะทำให้ช่วงไตรมาส 4 รับรู้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันในไตรมาส 4 ปีนี้บริษัทฯ ยังคาดหวังจะปิดดีลเจรจาเพื่อลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศที่ดำเนินการจ่ายไฟ และขายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เพื่อรับรู้รายได้ทันที หรืออย่างช้าอาจีลได้ไม่เกินไตรมาส 1 ปี 2565

อีกทั้งในปีหน้า บริษัท ยังเดินหน้าขยายการลงทุนตามแผนลงทุน 5 ปีของบริษัท ที่วางเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตไทยจากในประเทศไทย เพิ่มขึ้นประมาณ 50 เมกะวัตต์ ทั้งในรูปแบบM&A การลงทุนในลักษณะสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานเอกชนกับเอกชน(Private PPA) และศึกษาโอกาสลงทุน Waste to Energy   

รวมถึงศึกษาโอกาสขยายการลงทุนโครงการในต่างประเทศเพิ่มเติม ทั้งพลังงานลม และโซลาร์ฯ ในเวียดนาม และประเทศอื่นๆ คาดหวังจะมีกำลังผลิตใหม่เพิ่มขึ้น 50-100 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้น ประมาณ 100-200 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ ปัจจุบัน TSE มีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ในมือ 35 โครงการ กำลังผลิตรวม 291.70 เมกะวัตต์ ในประเทศไทยและญี่ปุ่น และมีแผนขยายการลงทุนไปยังเวียดนาม และประเทศเพื่อนบ้านในปีหน้า

ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/64 สำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.64 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 208.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192.98% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 71.12 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม (รวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า) 670.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 572.37 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทฯ ยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนทางการเงินให้ลดลงจากปีก่อนกว่า 10%

ขณะที่ ผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนของปี 64 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 593.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.31% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 320.03 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม (รวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า) 1,826.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 1,708.21ล้านบาท รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพของโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการรับรู้รายได้ใหม่จากโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำเอกชนแห่งแรก “สยาม ธารา โฟลทติ้ง” ขนาดกำลังผลิตติดตั้งและเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.6